ออฟฟิศซินโดรม ภาวะเจ็บปวดที่กลายเป็นคำที่เรามักได้ยินกันจนชินหูและกลายเป็นอาการเจ็บแบบธรรมดาสามัญที่พบได้ทั่วไปในกลุ่มมนุษย์เงินเดือน แม้จะดูเป็นอาการเจ็บปวดที่ไม่ได้ดูรุนแรงอะไร แต่แท้จริงแล้วหากปล่อยไว้ อาจกลายเป็นอาการเรื้อรังจนรักษาไม่หายและเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันในที่สุด
ออฟฟิศ ซินโดรม คืออะไร?
Office syndrome คืออาการปวดกล้ามเนื้อ ที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ อยู่ท่าทางเดิมๆนานเดินไป ไม่ได้มีการผ่อนคลายหรือเปลี่ยนท่าทาง ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อขึ้น สามารถเกิดขึ้นกับวัยหนุ่มสาวโดยเฉพาะวัยทำงานเช่นคนที่ทำงานออฟฟิตเนื่องจากต้องนั่งท่าเดิมเป็นเวลานานๆ เช่น การนั่งไขว่ห้างเป็นประจำ การนั่งตัวงอ พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ การก้มหน้านาน ๆ เป็นต้น ทำให้กล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานซ้ำ ๆ มีการหดเกร็ง หรือยืดค้างในรูปแบบเดิมบ่อย ๆ จนกล้ามเนื้อมัดนั้น ๆ เกิดการบาดเจ็บ หรืออาจขมวดเป็นก้อนตึง และเกิดอาการปวดตามมา
สาเหตุของอาการ office syndrome
สาเหตุของอาการ office syndrome หลักๆ ดังนี้ คือ
- การใช้กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่มากเกินไป โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนท่าทางเลย การอยู่ในท่าเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานานๆ ตลอดทั้งวัน
- การใช้ท่าทางที่ผิด ซึ่งโดยปกติแล้ว ร่างกายไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ใช้กล้ามเนื้อมัดนั้นๆ ในการหิ้ว หรือยกอะไรที่หนักเกินไป เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือมือเดียว ใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป เป็นต้น
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการ office syndrome
ปัจจัยสำคัญคือปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ ลักษณะการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น เก้าอี้อยู่เตี้ยเกินไป โต๊ะอยู่สูงเกินไป ทำให้ผู้ใช้ต้องกางไหล่ เมื่อกางไหล่มากเกินไป กล้ามเนื้อใช้ก็จะเกิดการอักเสบ ส่งผลให้มีอาการปวดบริเวณบ่า การก้มที่มากเกินไป อย่างอาชีพนักประชาสัมพันธ์ที่ต้องก้มมองจอมอนิเตอร์ที่พื้น หรือบางกรณีที่ต้องมองจอมอนิเตอร์ที่แขวนอยู่บนผนัง ก็เป็นการใช้กล้ามเนื้อคอที่มากเกินไป การใช้กล้ามเนื้อที่มากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหด เกร็งตัว และกลายเป็นก้อนเกร็งของมัดกล้ามเนื้อ
ซึ่งอาการ office syndrome ในคนกลุ่มนี้ก็จะรักษาไม่หายขาด คนไข้จะมีอาการจะเป็น ๆ หายๆ และสุดท้ายคนไข้ก็จะมาด้วยอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งจะมีผลต่อภาวะจิตใจด้วย ทำให้หงุดหงิด นอนไม่หลับ มีปัญหาความเครียดและความกังวลตามมา นอกจากนี้ ในคนที่มีอาการปวดและร้าว หรือมีอาการชาลงแขน คนไข้กลุ่มนี้จำเป็นจะต้องรีบมาพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายอื่นๆ ตามมา เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรง ดังนั้น ถ้าใครที่มีอาการกระดกข้อมือไม่ได้ จากที่เคยเซ็นชื่อได้กลับเซ็นไม่ได้ มืออ่อนแรง ควรรีบมาพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและรักษาต่อไป
ลักษณะอาการปวดของ office syndrome
ลักษณะอาการปวด แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ตามลักษณะอาการ ดังนี้
การปวดแบบเฉียบพลัน
หรืออาการกล้ามเนื้อยอก เคล็ด อาการที่พบได้บ่อยๆ เช่น นอนตกหมอน ลักษณะของอาการคือกล้ามเนื้อมีการตึง เกร็ง หันคอได้ลำบาก เป็นต้น
ปวดแบบกึ่งเฉียบพลัน หรือกลุ่มเรื้อรัง
เป็นกลุ่มคนไข้ที่มีประวัติของอาการปวดคอ ปวดกล้ามเนื้อมาก่อน ลักษณะของอาการเกิดขึ้นแบบเป็นๆ หายๆ เกิดขึ้นได้เมื่อมีการใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนักเป็นเวลานานๆ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ไม่เพียงพอ ทำให้กลับมาเป็นได้อีก พบมากในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ
กลุ่มอาการ office syndrome
กลุ่มอาการทั่วไป
กลุ่มอาการกดทับของเส้นประสาท
อาการกดทับของไขสันหลัง
5 อาการที่มักพบบ่อยในผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรม
- ปวดศีรษะ
- ปวด ตึง กล้ามเนื้อบริเวณ คอ บ่า ไหล่
- คอยื่น
- ไหล่ห่อ
- ชามือและแขนจากกล้ามเนื้อที่ตึง
วิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรม (office syndrome)
การปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
ไม่ควรนั่งในท่าเดิมนานๆ ควรจะแบ่งเวลาพักทุก 2 ชั่วโมง เช่น การเปลี่ยนท่านั่ง ลุกขึ้นยืดกล้ามเนื้อ ลุกเดินไปมาเพื่อคลายกล้ามเนื้อ เปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งหลังงอเป็นนั่งหลังตรง ควรปรับระดับของการนั่งที่ถูกต้อง และปรับท่านั่งให้ถูกต้อง คือ นั่งหลังตรง ปรับเก้าอี้ให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดีที่ศรีษะจะไม่ก้มไม่เงยจนเกินไป
การออกกำลังกายเป็นประจำ
การป้องกันปัญหาสุขภาพร่างกายที่ดีที่สุดคือ “การออกกำลังกายเป็นประจำ” ซึ่งการออกกำลังกายนั้นไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายด้วยความหักโหมแต่ควรเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยและความชอบส่วนตัว เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ดี ลดอาการเจ็บปวด เมื่อยล้ากล้ามเนื้อ ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง อย่างน้อยวันละ 30-40 นาที
** ในกรณีที่ลองออกกำลังและปรับพฤติกรรมแล้วอาการปวดไม่ลดลงควรเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นเป็นออฟฟิศซินโดรมจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเวชศาสตร์ฟื้นฟูหรือทำกายภาพบำบัด
วิธีรักษาอาการ office syndrome โดยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
การรักษาทางกายภาพบำบัด
จ่ายยาเพื่อรักษา
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- ท่ายืดกล้ามเนื้อ รักษา ออฟฟิศ ซินโดรม
- กายภาพบำบัดผู้สูงอายุ มีความสำคัญอย่างไร
- กระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
บริการ รักษ์คุณ โฮมแคร์ เป็นสถานบริการดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดในสมองตีบ ผู้สูงอายุ ทั้งระยะสั้ และระยะยาว ดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังอาการเจ็บป่วยโดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์เฉพาะทาง มีแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ทีมนักกายภาพบำบัด ทีมผู้ดูแลที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ให้บริการกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (Transcranial Magnetic Stimulation: TMS) และกายภาพบำบัดครบวงจร (Rehabilitation Center) ที่นี่เราให้เป็นมากกว่าสถานบริการพยาบาลเพราะเราเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่รักในการบริการพร้อมดูแลผู้สูงวัยทุกท่านประดุจญาติผู้ใหญ่ของตนเอง มีบริการดูแลช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน ดูแลทำความสะอาดร่างกายโดยทั่วไปในกรณีที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตรวจวัดความดัน ชีพจร อุณหภูมิ ออกซิเจน กายภาพบำบัด ดูแลสุขภาพตามคำสั่งแพทย์ บริการอาหาร 3 มื้อ และอาหารว่างที่มีทีมดูแลด้านโภชนาการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ รวมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการให้ผู้สูงวัย นอกจากนี้เราก็ใส่ใจด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยการติดกล้องวงจรปิดทุกจุดในสถานที่พักตลอด 24 ชั่วโมง
หากสนใจหรืออยากสอบถามบริการ สามารถสอบถามได้ที่ รักษ์คุณ โฮมแคร์ & รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น เบอร์โทรศัพท์ 062-442-5962 เวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ 08.00-20.00 น.
Line รักษ์คุณ โฮมแคร์: @rukkhun.hc (มี @)
Facebook Page: รักษ์คุณ โฮมแคร์ :ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโดยแพทย์เฉพาะทาง
บทความอื่นๆ
ผู้ป่วย อัลไซเมอร์ ไม่ยอมนอน ดูแลอย่างไรดี?
ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว ในผู้สูงอายุ อันตรายหรือไม่ รักษาอย่างไร?
5 ท่า บริหาร หัวใจ ผู้ สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงวัยหัวใจแข็งแรง