“โรคนอนไม่หลับ” ปัญหาแก้ไม่ตกของวัยชรา

“โรคนอนไม่หลับ” เป็นอีกโรคหนึ่งที่เกิดจากการที่สมองทำงานไม่ปกติ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการที่ผู้สูงอายุหมดสติและไม่ยอมฟื้นจนต้องรีบส่งโรงพยาบาลแต่การนอนไม่หลับในผู้สูงอายุนั้นไม่มีอาการที่ดูร้ายแรงอะไร ทุกๆ คนหรือแม้แต่ตัวผู้สูงอายุเองจึงเลือกที่จะปล่อยปละละเลยและในบางรายถึงกับต้องหันไปพึ่งยานอนหลับที่เลือกซื้อมาเองและใช้จนติดงอมแง การทำเช่นนี้ถือเป็นดาบสองคมที่ทำร้ายร่างกายอยู่เรื่อยๆ จากผลสำรวจพบว่าผู้สูงในวัยตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปต้องพบกับปัญหาของการนอนไม่หลับแต่ก็ไม่ได้เข้าพบแพทย์อย่างจริงจังเสียเท่าไหร่ทั้งที่แท้จริงแล้วการนอนไม่หลับเช่นนี้เป็นสัญญาณเตือนของโรคทางระบบสมองและอื่นๆ ด้วย

"โรคนอนไม่หลับ" ปัญหาแก้ไม่ตกของวัยชรา

โรคนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ

ครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุ อาจจะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อมีอายุที่มากขึ้นพฤติกรรมการนอนหลับของคุณปู่ ย่า ตา ยาย หรือ พ่อแม่ที่มีความเปลี่ยนแปลงไป เช่น การเข้านอนช้าแต่กลับตื่นเร็ว ใช้เวลาก่อนนอนกว่าจะหลับเป็นเวลานาน ตื่นมากลางดึกแล้วนอนไม่หลับจนเช้า นอนกลางวันตื่นตอนกลางคืน เป็นต้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้คำถามที่ตามมาคือ พฤติกรรมเหล่านี้ของพวกท่านเป็นปกติหรือไม่?

เป็นที่ทราบกันดีว่าไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดคนเราทุกคนย่อมต้องพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง ดังนั้นคำตอบของคำถามที่ว่าพฤติกรรมการนอนไม่หลับของผู้สูงอายุเป็นปกติหรือไม่ คือ “ไม่ปกติ” อีกทั้งต้องเน้นย้ำว่า “ไม่ควรมองข้าม” ด้วยจึงจะถูก ผู้สูงอายุที่พบเจอกับปัญหานี้จะยิ่งทำให้ระบบต่างๆเสื่อมถอยลงไวขึ้นอีกเนื่องจากส่งผลต่อระบบสมองโดยตรง จะมีอาการอ่อนเพลีย คิดไม่ออกคิดช้า ต่อมรับรสอาหารเริ่มทำงานผิดเพี้ยน จนในที่สุดก็ก่อให้เกิดความวิตกกังวลได้

โรคนอนไม่หลับ มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง

1. ความชราสร้างความเปลี่ยนแปลง

โดยปกติแล้วยิ่งเราอายุเพิ่มขึ้นการทำงานของสมองก็จะเสื่อมถอยลงตามอายุของเราไปด้วย และแม้ว่าบทบัญญัติของการรักษาสุขภาพจะระบุไว้ว่าคนเราควรนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงแต่ผู้สูงอายุก็ไม่สามารถทำได้เนื่องด้วยการทำงานของสมองที่เปลี่ยนไปส่งผลให้พฤติกรรมการนอนเปลี่ยนตามไปด้วย

2. โรคประจำตัวกับการนอน

โรคประจำตัวบางโรคของผู้สูงวัยท่านนั้นๆ ส่งผลต่อการนอน เช่น โรคเบาหวาน ต่อมลูกหมากโต ที่มักต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อลุกมาปัสสาวะหลายๆ ครั้งทำให้หลับสนิทได้ยาก รวมไปถึงการปวดข้อต่างๆ ตามร่างกายจึงอาจทำให้จัดท่านอนได้ลำบาก

3. ปัญหาทางสุขภาพจิต

การเกิดความเครียด ความวิตกกังวล รู้สึกเศร้า และคิดมากเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอนหลับในผู้สูงทั้งสิ้น ซึ่งบางรายอาจจะหลับยากตั้งแต่เริ่มล้มตัวนอนหรือบางรายก็นอนตามเวลาปกติแต่จะตื่นช่วงตี 3-4 หลังจากนั้นก็จะนอนไม่หลับอีกตลอดทั้งวัน

4. ยารักษาโรคบางชนิด

การรับประทานยาบางตัวของผู้สูงอายุส่งผลโดยตรงต่อการนอนซึ่งมีผลออกฤทธิ์ในระบบประสาทส่วนกลาง หรือสมอง เช่น  ยารักษาโรคพาร์กินสัน ยาไทรอยด์ ยาแก้ชัก ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาสเตียรอยด์ ยารักษาภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น

 

โรคนอนไม่หลับในผู้สูงอายุแก้ยังไง

ในขั้นต้น ผู้สูงอายุที่เริ่มประสบปัญหาการนอนไม่หลับ มีข้อปฏิบัติบางประการที่อาจช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้ ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน

เป็นพฤติกรรมของผู้สูงอายุบางท่านที่มักนอนตอนกลางวันเนื่องจากระยะเวลาในการนอนกลางคืนไม่เพียงพอ หรือบางท่านคือนอนทั้งกลางคืนและกลางวันด้วยจนเป็นนิสัย ดังนั้นลูกหลานควรอธิบายและแนะนำให้ท่านหลีกเลี่ยงการนอนกลางวันเพื่อที่จะสามารถบรรเทาอาการการนอนหลับไม่สนิทในช่วงกลางคืนได้

2. หลีกเลี่ยงการดื่มนอนก่อนนอน

หากจะให้ดีควรเว้นการดื่มน้ำทีละมากๆ ช่วง 4-5 ชั่วโมงก่อนเข้านอนเพื่อจะช่วยลดการปวดปัสสาวะบ่อยครั้งในตอนกลางดึก

3. เพิ่มกิจกรรมออกกำลังกาย

โดยเพิ่มกิจกรรมให้ท่านได้ออกแรงออกกำลังในช่วงกลางวัน การได้ออกกำลังกายนั้นจะทำให้ท่านได้เผาผลาญและหลับสบายมากขึ้นในช่วงกลางคืน

4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ควร

เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน ชา เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้มีคาเฟอีนที่ทำให้ร่างกายหลับได้ยาก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง

5. สภาพแวดล้อมในห้องนอน

ผู้สูงอายุควรมีห้องนอนที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม หลักๆ เลยควรมีความเงียบและมืดพอสมควร มีอากาศที่ถ่ายเท ไม่ร้อนหรือไม่หนาวจนเกินไป

วิธีการรักษาหากหลีกเลี่ยงไม่ได้

1. ยานอนหลับไม่ใช่ทางออก

สิ่งแรกที่ควรทำคือหากผู้สูงอายุท่านนั้นๆ กำลังใช้ยานอนหลับในการรักษาต้องรีบให้หยุดทานโดยทันทีเพราะนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุแล้วยังถือเป็นการทำร้ายร่างกายของผู้สูงอายุเองด้วย

2. ฝังเข็ม

เป็นวิธีตามตำราแพทย์จีนโบราณ ที่จะส่งผลให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดี แต่การรักษาโดยใช้วิธีนี้ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพราะถือว่าเป็นการรักษาที่เฉพาะทางมากๆ ลูกหลานที่จะพาผู้สูงอายุไปรักษาด้วยวิธีนี้จึงควรศึกษาให้เข้าใจและขอคำแนะนำที่ถูกต้องร่วมด้วย

กล่าวโดยสรุป “ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ” เป็นปัญหาหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการนอนหลับเป็นเวลาที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและฟื้นฟูซ่อมแซมส่วนต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนโรคต่างๆ ที่เราอาจไม่รู้ด้วย ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวอย่านิ่งนอนใจหากทำการดูแลและรักษาเบื้องต้นแล้วไม่ได้ผล ควรพาผู้สูงอายุไปพบหมอหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อการรักษาต่อไป

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สังเกตภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ มีความอันตรายอย่างไร

ออฟฟิศซินโดรม (office syndrome) คืออะไร?

การดูแลผู้สูงอายุอย่างไรให้สุขภาพดี มีความสุข อายุยืนยาว

บทความอื่นๆ

หากสนใจหรืออยากสอบถามบริการ สามารถสอบถามได้ที่ รักษ์คุณ โฮมแคร์ & รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น

เบอร์โทรศัพท์ 062-442-5962 

เวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ 08.00-20.00 น.

Line รักษ์คุณ โฮมแคร์: @rukkhun.hc (มี @)

เพิ่มเพื่อน

Facebook Page: รักษ์คุณ โฮมแคร์

รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น Rukkhun Health Rehabilitation Rukkhun Home Care รักษ์คุณ โฮมแคร์
บริการ รักษ์คุณ โฮมแคร์ เป็นสถานบริการดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดในสมองตีบ ผู้สูงอายุ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังอาการเจ็บป่วยโดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์เฉพาะทาง มีแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ทีมผู้ดูแลที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ให้บริการกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (TRANSCRANIAL MAGNETIC STIMULATION: TMS) และกายภาพบำบัดครบวงจร (REHABILITATION CENTER) พร้อมให้คำปรึกษาตรวจและรักษาโดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่นี่เราให้เป็นมากกว่าสถานบริการพยาบาลเพราะเราเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่รักในการบริการพร้อมดูแลผู้สูงวัยทุกท่านประดุจญาติผู้ใหญ่ของตนเอง มีบริการดูแลช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน ดูแลทำความสะอาดร่างกายโดยทั่วไปในกรณีที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตรวจวัดความดัน ชีพจร อุณหภูมิ ออกซิเจน กายภาพบำบัด ดูแลสุขภาพตามคำสั่งแพทย์ บริการอาหาร 3 มื้อ และอาหารว่างที่มีทีมดูแลด้านโภชนาการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ รวมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการให้ผู้สูงวัย นอกจากนี้เราก็ใส่ใจด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยการติดกล้องวงจรปิดทุกจุดในสถานที่พักตลอด 24 ชั่วโมง