“ไม้เท้า” อุปกรณ์ที่หลายๆ คนมองว่าเป็นเพียงสิ่งที่มาเป็นตัวช่วยให้กับผู้สูงเท่านั้น ซื้อแบบใดก็เหมือนกันไม่ต้องคัดสรรอะไรมากมาย หากแต่สำหรับผู้สูงอายุแล้วอุปกรณ์ช่วยเดินชนิดนี้อาจเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่และผู้ช่วยในยามยากของท่านก็เป็นได้ เพราะต้องคอยอาศัยไว้ช่วยเดินไปไหนมาไหนตามที่ต้องการ เปรียบเสมือนเป็นอีกหนึ่งอวัยวะในร่างกายเลยก็ว่าได้
“ไม้เท้า” ผู้สูงอายุมีความสำคัญอย่างไร-ทำไมต้องพิถีพิถันในการเลือก
1. เพราะปัญหาด้านสุขภาพ
เนื่องจากวัยสูงอายุ เป็นวัยที่ประสบปัญหาทางต่างๆ ด้านสุขภาพอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัวเรื้อรัง หรือความอ่อนแอลงทางร่างกายตามกาลเวลา จนทำให้การเคลื่อนไหวในทุกๆ อิริยาบถในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ดังนั้น การดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับ ผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่บุตรหลานควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
2. เพราะบางท่านจำเป็นต้องใช้
เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนไหว นอกจากปัญหาในเรื่องสุขภาพแล้ว ผู้สูงอายุบางท่านประสบปัญหาการได้รับบาทเจ็บต่างๆ เช่น แผลจากการผ่าตัด โรคข้ออักเสบ เป็นต้น การมีอุปกรณ์ชนิดนี้จึงทำให้พวกท่านรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อเริ่มเดิน ลุก นั่ง เพราะเป็นการช่วยพยุงร่างกายเอาไว้ให้เกิดความสมดุล และเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างสะดวก
“3 วิธี” ช่วยเลือกอุปกรณ์ช่วยเดินให้เหมาะกับผู้สูงอายุ
คนในครอบครัว หรือคนใกล้ชิดของผู้สูงอายุควรเลือกซื้อไม้ที่เหมาะแก่ปัญหาของพวกท่าน โดยอาจขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรืออ่านคู่มือประกอบ ซึ่งสามารถพิจารณาจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ ดังต่อไปนี้
1. น้ำหนัก
หากไม้มีน้ำหนักที่เบา หรือหนักจนเกินไป อาจทำให้ผู้สูงอายุยกขึ้นยาก และอาจเสี่ยงต่อการล้มเจ็บได้ง่าย ดังนั้นอาจเลือกวัสดุที่มีน้ำหนักค่อนข้างพอดีอย่าง อลูมิเนียมอัลลอย ทดแทนไม้ที่ทำจากไม้อัดแข็งโดยตรง
2. สังเกตด้ามจับและปลายของไม้
ส่วนของด้ามจับควรพอดีมือแก่ผู้สูงอายุไม่ควรมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด ซึ่งวัสดุที่ใช้ควรเป็นยาง หรือพลาสติกที่ป้องกันการลื่นจากเหงื่อได้เป็นอย่างดี และในส่วนของปลายไม้ที่ดีควรมีดอกยางที่ยึดเกาะพื้นผิวต่างๆ ไม่นิ่ม และต้องไม่รู้สึกลื่นจนเกินไป ไม่เช่นนั้น อาจทำให้ในการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของผู้สูงอายุไม่ปลอดภัย ดังนั้นจึงควรดูให้ดี
3. ระดับความสูง
วิธีการตรวจสอบคุณสามารถนำมาวัดได้ โดยการจับจะต้องอยู่ในท่าที่ไม่เกิดการโน้มตัวลง และลักษณะการจับข้อศอกของคุณจะอยู่ในมุมที่ค่อนข้างสบายโดยงอไปด้านหลังแบบอัตโนมัติประมาณ 15 องศา เพื่อเป็นการทรงตัวเมื่อเริ่มเคลื่อนไหว
อุปกรณ์ช่วยพยุงและเดิน 4 แบบ แบบใดเหมาะกับใครบ้าง?
1.ไม้เท้า
-
แบบทั่วไป
เป็นอุปกรณ์ช่วยเดินที่หลายคนรู้จักดี มีราคาที่ไม่แพง ไม้ชนิดนี้มักทำจากไม้เนื้อแข็งหรืออะลูมิเนียม ปรับความสูงได้ มีหลากหลายรูปแบบ
-
ไม้แบบ 3 ขา และ 4 ขา
ให้ความมั่นคงในการเดินมากกว่าไม้แบบทั่วไป แต่ใช้พื้นที่ในการเดินที่มากขึ้น ลักษณะเด่นของไม้ประเภทนี้คือมีจุดรองรับน้ำหนัก 3 หรือ 4 จุด มีฐานรองรับน้ำหนักที่กว้าง ทำจากอะลูมิเนียมหรือวัสดุอื่นๆ ซึ่งจะสามารถปรับความสูงได้ ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเดียวกันกับไม้แบบทั่วไป
เหมาะสำหรับ:
ใช้กับคนที่มีอาการปวดเข่าหรือปวดสะโพก และผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีปัญหาการอ่อนแรงครึ่งซีก
ไม่เหมาะกับ:
ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องกระดูกหัก เนื่องจากอาจจะรองรับน้ำหนักตัวได้ไม่เพียงพอ
2. วอล์คเกอร์ (Walker)
วอล์คเกอร์ เป็นอุปกรณ์ช่วยพยุงเดินที่มีความมั่นคงมากที่สุด เนื่องจากมีลักษณะจะมี 4 ขา เป็นฐานการรองรับน้ำหนักที่กว้าง น้ำหนักเบาและเดินได้ง่าย นอกจากนี้ มีรุ่น 4 ขา แบบติด 2 ล้อหน้า
เหมาะสำหรับ:
ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาการทรงตัวไม่ดี, ใส่ขาเทียม
ไม่เหมาะกับ:
ผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนแรงแขนทั้ง 2 ข้างไม่สามารถยกวอร์คเกอร์ได้ หรือการทำงานของแขนไม่สัมพันธ์กัน เช่น ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
3.ไม้ค้ำยัน
ไม้ค้ำยัน เป็นอุปกรณ์ช่วยเดินที่จะเปลี่ยนการถ่ายน้ำหนักจากขาไปที่ส่วนบนของร่างกาย ซึ่งประเภทของไม้ค้ำยันมีให้เลือก 2 แบบใหญ่ๆ คือ ไม้ค้ำยันรักแร้ และ ไม้ค้ำยันท่อนแขน ขึ้นกับความถนัดของผู้ใช้ อาจจะใช้ในช่วงระยะสั้นๆ ระหว่างบาดเจ็บ เช่น กระดูกขาหัก ข้อเท้าแพลง เป็นต้น หรืออาจใช้ตลอดชีวิตเช่น ผู้พิการสูญเสียขา
เหมาะสำหรับ:
คนที่ไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้เต็มที่ หรือไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้
ไม่เหมาะกับ:
ผู้ต้องการไม้ทั่วไป
4.โรเลเตอร์ (Rollator)
รถเข็นช่วยเดินโรเลเตอร์ เป็นอุปกรณ์ช่วยเดินที่มีล้อแมกซ์ 3-4 ล้อ มีเบรกมือ สามารถเก็บสิ่งของ ปรับระดับความสูงได้
เหมาะสำหรับ:
ผู้สูงอายุที่ยังพอเดินได้บ้างและมีกิจกรรมชอบออกนอกบ้าน เช่น ไปจ่ายตลาด เดินเล่นในสวนสาธารณะ เป็นต้น
ไม่เหมาะกับ:
ผู้ต้องการไม้ทั่วไป
อย่างไรก็ดี อุปกรณ์ชนิดนี้เป็นชิ้นที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งตามข้อมูลที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หากลูกหลานครอบครัวใดยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบใดก็สามารถปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญได้เพื่อที่จะนำคำแนะนำมาใช้พิจารณาในการประกอบการตัดสินใจ เพราะการมีอุปกรณ์ผู้สูงอายุที่ดีและมีคุณภาพก็เท่ากับคนในบ้านสามารถวางใจในความปลอดภัยของผู้สูงอายุได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
บทความอื่นๆ
ผู้ป่วย อัลไซเมอร์ ไม่ยอมนอน ดูแลอย่างไรดี?
ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว ในผู้สูงอายุ อันตรายหรือไม่ รักษาอย่างไร?
5 ท่า บริหาร หัวใจ ผู้ สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงวัยหัวใจแข็งแรง