ภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุเป็นภาวะหนึ่งที่ลูกหลานจะต้องให้ความสนใจเพราะว่าสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้สูงวัยที่มักจะเกิดขึ้นในผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป วันนี้เรามีวิธีสาเหตุของการเกิดภาวะซึมเศร้า อาการและวิธีป้องกันมาฝากกันค่ะ
ภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ คืออะไร?
อาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ คือ อาการป่วยของโรคชนิดหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ก่อนเข้าวัยสูงอายุและหลังจากเข้าสู่วัยสูงอายุ ซึ่งอาการของโรคจะมีความรุนแรงตั้งแต่ภาวะซึมเศร้าเล็กน้อยไปจนถึงอาจมีอาการจิตเวชร่วมด้วย อารมณ์ไม่แจ่มใส รู้สึกหดหู่ บางเคสอาจมีความคิดสั้น คิดฆ่าตัวตาย สามารถรักษาได้ด้วยการเข้าพบจิตแพทย์
สาเหตุของโรคซึมเศร้าในสูงอายุ
ภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุนั้นหากไม่ใช่อาการป่วยที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นหรือวัยทำงาน ก็มักจะเกิดในวัยผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นการสูญเสียคู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันมาทั้งชีวิตหรือคนในครอบครัว ในบางรายอาจจะเกิดจากการสูญเสียสถานะทางสังคม เช่น ชีวิตหลังเกษียณที่เคยทำงาน เคยพบเจอสังคม เจอเพื่อน และเมื่อมาอยู่ในบ้านคนเดียวก็ไม่สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต หรือ เกิดความกังวลเรื่องรายได้ และบางรายก็เกิดจากการเหงาโดดเดี่ยวที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวตามลำพังปราศจากลูกหลานห้อมล้อม
แต่ในบางกรณีโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุนั้น บางครั้งก็ถูกกระตุ้นโดยโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ไขมันในเลือด ความดัน หรือโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคสมองเสื่อม โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคพาร์กินสันจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไป
อาการของโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
อาการของโรคซึมเศร้าของผู้สูงวัย คนในครอบครัวสามารถสังเกตอาการของได้ ดังนี้
- ทานอาหารได้น้อยลงกว่าปกติ แม้จะเป็นอาหารที่ชอบ ในบางรายอาจจะทานได้เยอะกว่าเดิม
- นอนน้อยกว่าปกติ ตื่นกลางดึก หรือในบางรายก็มักจะนอนทั้งวัน
- ดูคล้ายกับมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง
- ไม่อยากทำอะไร ความสนใจต่อสิ่งต่างๆ ลดน้อยลง
- เสียความมั่นใจรู้สึกว่าไร้ค่า ชอบพูดจาโทษตัวเอง
- จากที่เคยเป็นคนที่เข้าสังคมก็ปิดกั้น ไม่พบเพื่อนฝูง เก็บตัวมากขึ้น
- มีอารมณ์รุนแรง หงุดหงิดง่าย แต่ในบางครั้งก็มีอาการเศร้าซึม หดหู่
- มีความพยายามจะทำร้ายตัวเอง หรือ มีแนวโน้มว่าคิดสั้น

วิธีรักษาและดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะซึมเศร้า
หากผู้สูงอายุที่บ้านมีแนวโน้มของอาการป่วยซึมเศร้า คนในครอบครัวควรที่จะรีบพามาปรึกษาจิตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา ซึ่งในขั้นตอนการรักษาจำเป็นต้องใช้ยาจิตเวชเป็นหลัก คนในครอบครัวควรดูแลการทานยาให้ตรงเวลาครบทุกมื้อตามที่แพทย์สั่งโดยที่ห้ามลดหรือเพิ่มขนาดยาเองและควรพาผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามนัดแพทย์ทุกครั้ง นอกจากนี้คนในครอบครัวควรที่จะให้กำลังใจและควบคุมปัจจัยกระตุ้นไม่ให้ผู้ป่วยเกิดอาการกำเริบขึ้นมาอีก ควรให้ความเอาใจใส่ พูดคุยให้บ่อยขึ้น ไม่ควรทิ้งผู้ป่วยไว้ตามลำพัง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีแนวโน้มทำร้ายตัวเอง คนในครอบครัวจะต้องเก็บของมีคมทุกชิ้นให้ห่างจากมือผู้ป่วยให้หมดเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน
แต่สำหรับครอบครัวไหนเป็นครอบครัวที่ต้องออกไปทำงานกันทุกวัน ไม่มีใครสามารถดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดได้ สามารถใช้บริการบ้านพักผู้สูงอายุระยะสั้น หรือ เนอร์สซิ่งโฮมสำหรับดูแลผู้ป่วยโดยเฉพาะ ก็สามารถช่วยลดปัญหาการดูแลผู้ป่วยได้
บทความอื่นๆ
ผู้ป่วย อัลไซเมอร์ ไม่ยอมนอน ดูแลอย่างไรดี?
ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว ในผู้สูงอายุ อันตรายหรือไม่ รักษาอย่างไร?
5 ท่า บริหาร หัวใจ ผู้ สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงวัยหัวใจแข็งแรง