“ฟันปลอม” 5 ข้อที่ควรรู้ ผู้สูงวัยใช้แบบไหนจึงเหมาะสม

“ฟันปลอม” อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า เมื่ออายุมากขึ้นสุขภาพช่องปากก็จะเริ่มอ่อนแอขึ้นมีโรคต่างๆเข้ามามากขึ้น เนื่องจากฟันแท้ตามธรรมชาติที่อาจจะเริ่มอ่อนแอลงจึงจำเป็นต้องดูแลให้มากขึ้นเป็นพิเศษเพราะหากว่าสุขภาพฟันมีปัญหาก็จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายด้วย เนื่องจากทำให้รับประทานอาหารไม่ได้ ทำให้เบื่ออาหารตามมา ส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ทุกอย่างเกี่ยวเนื่องกันหมดในร่างกาย สำหรับผู้สูงวัยที่สูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติเพียงชุดเดียวไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการรักษาโดยด่วน และวิธีรักษาที่ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการใส่ฟันเทียมนั่นเอง

"ฟันปลอม" 5 ข้อที่ควรรู้ ผู้สูงวัยใช้แบบไหนจึงเหมาะสม

“ฟันปลอม” กับ 5 ข้อที่ควรรู้ก่อนเลือกให้ผู้สูงอายุ

1. ผู้สูงวัยกับสุขภาพช่องปาก

ผู้สูงวัยในปัจจุบันที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไปยังคงมีความเชื่อแบบเก่าๆว่า ฟันหลุดร่วงก็เป็นไปตามอายุขัย ไม่มีทางป้องกันได้เพราะใช้งานมานานก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติ จึงทำให้เกิดการละเลยในการดูแลสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก โดยจากการศึกษาได้พบว่า ในผู้สูงวัย ร้อยละ 70 ประสบปัญหาไม่มีฟันบดเคี้ยวอาหาร ทางเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเข้าพบทันตแพทย์ก็คือ การใส่ฟันเทียมแบบถอดได้ เพราะ ถือว่าเป็นการทดแทนฟันแท้ตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยเรื่องความสวยงามในช่องปากของผู้สูงวัยอีกด้วย

2. เลือกอุปกรณ์แบบไหนเหมาะสมกับผู้สูงวัย?

อุปกรณ์ทางช่องปากชนิดนี้ถูกผลิตออกมาตามความเหมาะสมมากมายหลายรูปแบบ โดยมีทั้ง ถอดได้ ถอดไม่ได้ ถาวร หรือ ชั่วคราว โดยในกลุ่มของผู้สูงวัยนั้น ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมักจะแนะนำให้ใช้อุปกรณ์แบบถอดได้ นอกจากว่าผู้สูงวัยท่านนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพทำให้ดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเองไม่ได้ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทที่เกี่ยวเนื่องกับช่องปาก ทันตแพทย์จะไม่แนะนำให้ใส่ชนิดแบบถอดได้ เพราะอาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี จึงแนะนำให้ใช้ชนิดแบบติดแน่น ไม่สามารถถอดได้ เนื่องจากผู้สูงวัยจะสามารถปรับตัวได้ง่ายกว่า

3. จะเกิดอะไรขึ้นหากผู้สูงวัยไม่ใส่ฟันเทียม?

สำหรับในผู้สูงวัยการไม่ใส่อุปกรณ์ช่วยเคี้ยวชนิดนี้นั้นอาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงกว่าในช่วงวัยรุ่น เนื่องจากว่าในผู้สูงวัยมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพช่องปากที่อ่อนแอมากกว่า ซึ่งหากว่าท่านสูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติแล้วไม่ทำการใส่ฟันเทียมอาจจะส่งผลให้เหงือกอักเสบ เนื่องจากว่าเศษอาหารที่รับประทานอาจกระแทกที่เหงือกบริเวณที่สูญเสียฟัน และหากไม่ทำการรักษาอาจส่งผลรุนแรงกลายเป็นโรคปริทันต์ได้อีกด้วย และอาจทำให้ท่านสูญเสียฟันรอบข้างไปในที่สุด ซึ่งนอกจากนี้การสูญเสียฟันหน้าอาจส่งผลให้เกิดการพูดและออกเสียงไม่ชัดเจนและทำให้มีปัญหาด้านบุคลิก หน้าที่การงาน ขาดความมั่นใจ รอยยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ และที่สำคัญคือเมื่อไหร่ที่ฟันหายไปหนึ่งซี่จะทำให้เกิดช่องว่าง ทำให้ฟันซี่อื่นๆจะเกิดการล้มตามมาด้วย

 

4. ข้อดีของฟันเทียมชนิดแบบถอดออกได้

ทันตแพทย์จะแนะนำให้ผู้สูงวัยใส่ฟันเทียมแบบถอดได้ เนื่องจากว่าในปัจจุบันมีการใช้วัสดุที่แข็งแรงแตกหักได้ยาก และสามารถซ่อมแซมได้ง่าย จึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำการผ่าตัดให้เสี่ยงอันตรายเนื่องจากผู้สูงอายุอาจจะมีโรคแทรกซ้อนต่างๆได้ง่าย แถมการดูแลถือว่าง่ายดายไม่ยุ่งยาก เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีอายุมาก หรืออยู่ในวัยสูงอายุ โดยทำการถอดมาทำความสะอาดเพียงแค่วันละครั้งก่อนนอนเท่านั้น เพื่อขจัดเศษคราบอาหารที่รับประทานมาทั้งวัน และทำการแช่น้ำสะอาดไว้ในกล่องที่ปิดมิดชิด เมื่อตื่นนอนทำความสะอาดช่องปากเสร็จเรียบร้อยก็นำมาใส่เท่านั้น

5. ราคาของแต่ละแบบ

การทำฟันเทียมกับโรงพยาบาลรัฐจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าเอกชน เช่น ชนิดแบบถอดได้ทั้งปาก วัสดุอะคริลิก ราคาของโรงพยาบาลรัฐจะประมาณ 4,000-11,000 บาท ในขณะที่ของเอกชนราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,500-35,000 บาท โดยราคาทั้งหมดนี้อาจยังไม่รวมกับการเคลียร์ช่องปากอื่นๆ และค่าบริการต่างๆ ที่อาจเพิ่มมา ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากเป็นรายกรณีไป

ทั้งนี้การพาผู้สูงอายุในครอบครัวไปทำฟันเทียม ไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงามเท่านั้นหากแต่เพื่อคำนึงถึงสุขภาพช่องปากของท่านอันเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากหากสุขภาพช่องปากไม่ดีก็จะตามมาด้วยโรคอื่นๆ ด้วยนั่นเอง ดังนั้นบุตรหลานจึงควรพาท่านไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาและหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับผู้สูงวัยในครอบครัวให้ได้นั่นเอง


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความอื่นๆ

หากสนใจหรืออยากสอบถามบริการ สามารถสอบถามได้ที่ รักษ์คุณ โฮมแคร์ & รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น

เบอร์โทรศัพท์ 062-442-5962 

เวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ 08.00-20.00 น.

Line รักษ์คุณ โฮมแคร์: @rukkhun.hc (มี @)

เพิ่มเพื่อน

Facebook Page: รักษ์คุณ โฮมแคร์

รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น Rukkhun Health Rehabilitation Rukkhun Home Care รักษ์คุณ โฮมแคร์
บริการ รักษ์คุณ โฮมแคร์ เป็นสถานบริการดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดในสมองตีบ ผู้สูงอายุ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังอาการเจ็บป่วยโดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์เฉพาะทาง มีแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ทีมผู้ดูแลที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ให้บริการกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (TRANSCRANIAL MAGNETIC STIMULATION: TMS) และกายภาพบำบัดครบวงจร (REHABILITATION CENTER) พร้อมให้คำปรึกษาตรวจและรักษาโดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่นี่เราให้เป็นมากกว่าสถานบริการพยาบาลเพราะเราเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่รักในการบริการพร้อมดูแลผู้สูงวัยทุกท่านประดุจญาติผู้ใหญ่ของตนเอง มีบริการดูแลช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน ดูแลทำความสะอาดร่างกายโดยทั่วไปในกรณีที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตรวจวัดความดัน ชีพจร อุณหภูมิ ออกซิเจน กายภาพบำบัด ดูแลสุขภาพตามคำสั่งแพทย์ บริการอาหาร 3 มื้อ และอาหารว่างที่มีทีมดูแลด้านโภชนาการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ รวมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการให้ผู้สูงวัย นอกจากนี้เราก็ใส่ใจด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยการติดกล้องวงจรปิดทุกจุดในสถานที่พักตลอด 24 ชั่วโมง