เนอร์สซิ่งโฮมคืออะไร?
เนอร์สซิ่งโฮม เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกหรือบ้านพักสำหรับดูแลผู้สูงอายุที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน หลายๆ อาจจะคิดว่า คือบ้านพักคนชรา แต่ความจริงแล้วหน้าที่ของเนอร์สซิ่งโฮมมีมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ทุพพลภาพ ผู้สูงอายุที่ผ่านการผ่าตัดที่ต้องการพักฟื้น ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาตที่ต้องได้รับการดูแลและการทำกายภาพบำบัด โดยที่เนอร์สซิ่งโฮมจะมีทีมแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำกายภาพ นักโภชนาการด้านอาหารและพนักงานที่ผ่านการอบรมดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ซึ่งสถานที่แห่งนี้นอกจากจะดูแลสุขภาพกายให้สมบูรณ์แข็งแรงแล้วยังต้องดูแลสุขภาพใจให้ผู้สูงอายุอีกด้วย
ทำไมเนอร์สซิ่งโฮมถึงแตกต่างจากบ้านพักคนชรา
หลายคนไม่น้อยที่เข้าใจผิดว่าเนอร์สซิ่งโฮมนั้นเป็นสถานบริการที่ไม่มีความแตกต่างกับบ้านพักผู้สูงอายุ ซึ่งความจริงแล้วไม่จริงเลย เพราะเนอร์สซิ่งโฮมจะเน้นการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรที่เป็นทั้งสถานพยาบาลและดูแลผู้ป่วยพักฟื้น โดยจะแบ่งกลุ่มผู้สูงอายุออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้
- กลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หมายถึง ผู้สูงอายุที่ไม่ได้ต้องการการดูแล 24 ชั่วโมง ไม่มีภาวะป่วยติดเตียง สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตัวเอง
- กลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หมายถึง ผู้สูงอายุที่ร่างกายไม่แข็งแรง มีภาวะติดเตียง ป่วยเป็นโรคบางอย่างที่จำเป็นต้องมีคนคอยดูแลใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งที่เนอร์สซิ่งโฮมจะเป็นสถานบริการที่คอยดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้ โดยที่มีทีมงาน ทีมแพทย์ พยาบาลดูแลในความสะดวกอยู่ตลอดเวลา โดยที่นี่จะมีความสะดวกสบายกว่าบ้านพักคนชราตรงที่จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ในการดูแลครบครับเช่น รถเข็น กริ่งขอความช่วยเหลือ กล้องวงจรปิด ราวพยุง อุปกรณ์ช่วยชีวิต และรถพยาบาลที่สามารถพาไปรักษาได้ตลอดหากเกิดเหตุไม่คาดคิด มีสะดวกสบายไม่ต่างจากบ้านเพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนจะถูกอบรมการดูแลเอาใจผู้ป่วยและผู้สูงอายุให้มีสุขภาพกายสุขภาพใจแข็งแรงอย่างใกล้ชิดและยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำเพื่อคลายเหงามีความสุขอีกด้วย ซึ่งที่เนอร์สซิ่งโฮมจะตอบโจทย์ได้ทั้งผู้ป่วยระยะสั้นและระยะยาว
ทำไมเนอร์สซิ่งโฮมถึงเป็นที่ต้องการในปัจจุบัน?
สาเหตุที่ธุรกิจประเภทเนอร์สซิ่งโฮมหรือบ้านดูแลผู้สูงอายุเป็นที่นิยมในปัจจุบันมาก ก็เกิดมาจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่นิยมทำงานนอกบ้านกันเยอะขึ้น ทำให้ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุที่เป็นที่รักได้อย่างเต็มที่ หรือในบางครั้งผู้สูงอายุก็มีอาการป่วยที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด หรือจำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ตลอดเวลา ดังนั้นเนอร์สซิ่งโฮมจึงค่อนข้างตอบโจทย์การดูแลด้านนี้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้เนอร์สซิ่งโฮมยังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มักจะอยู่เป็นโสดกับมากขึ้น และในกลุ่มคนที่วางแผนในอนาคตวัยชราไว้โดยที่ไม่อยากให้ลูกหลานต้องเป็นกังวล เป็นห่วง ไม่อยากรู้สึกว่าเป็นภาระ ก็จะเลือกใช้บริการเนอร์สซิ่งโฮมเป็นสถานที่พักพิงในยามชรา ซึ่งมีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่แสดงเจตจำนงติดต่อขอเข้ารับบริการหลังเกษียณอายุจากการทำงาน แล้วย้ายมาอยู่ที่เนอร์สซิ่งโฮมหรือสถานบริการผู้สูงอายุต่างๆ เพื่อจะได้ใกล้ชิดทีมแพทย์ที่สามารถดูแลสุขภาพเราได้ มีสังคม มีเพื่อนฝูงได้เหมือนเดิม ไม่ต้องนั่งเดียวดายอยู่ที่บ้านเป็นต้น
ก่อนเข้าเนอร์สซิ่งโฮมต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- จัดเตรียมเอกสารในการดำเนินเรื่องให้พร้อม เช่น เอกสารขอเข้ารับบริการ สำเนาบัตรประชาชนผู้สูงอายุ สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์หรือผลการตรวจต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ และภาพถ่าย
- คำนวณค่าใช้จ่าย เนอร์สซิ่งโฮมแต่ละแห่งจะมีค่าบริการที่แตกต่างกัน จุดนี้ผู้ใช้บริการจะต้องศึกษาเปรียบเทียบแต่ละที่ให้ดีว่า สถานบริการแห่งนี้เหมาะสมหรือไม่ มีบริการอะไรบ้างเพื่อจะได้เลือกสถานที่ดีที่สุดสำหรับท่านหรือคนที่ท่านรัก
- ของใช้ส่วนตัวของผู้เข้ารับบริการ เช่น ยาที่ทานประจำ แพมเพิสสำหรับผู้สูงอายุ
- พูดคุยกับผู้สูงอายุหรือผู้ใช้บริการให้เข้าใจ ผู้สูงอายุบางคนไม่มีความตั้งใจหรือมาอยู่โดยสมัครใจ ดังนั้นการพูดคุยสำคัญมาก คุณไม่ควรพาท่านมาโดยไม่บอกล่วงหน้าเพราะอาจจะส่งผลสภาพจิตใจ หากคุณมีความจำเป็นที่ต้องให้ผู้สูงอายุที่บ้านมาเข้ารับการรักษาที่นี่จริงๆ ก็ควรชี้แจงให้ท่านเข้าใจ เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งและความเข้าใจผิดของผู้สูงอายุเองว่าถูกทอดทิ้ง อาจจะก่อให้เกิดปัญหาซึมเศร้าในวัยชราตามมาได้
ไม่มั่นใจว่า สถานบริการนี้ผู้สูงอายุชอบหรือไม่ ควรทำอย่างไร ?
ก่อนตัดสินใจว่าที่ไหนดีที่สุด ในกรณีที่ท่านหาสถานบริการที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุอันเป็นที่รักในบ้าน ไม่ควรตัดสินใจด้วยต้นเองโดยที่ไม่สอบถามความพอใจของผู้ใช้บริการเอง เนื่องจากท่านไม่ได้เป็นผู้มาใช้บริการ ดังนั้นจึงควรใช้ความพอใจของผู้ใช้เป็นหลัก และควรพูดคุยให้ท่านเข้าใจ และยอมเข้ามาอยู่ด้วยความเต็มใจเรื่องนี้สำคัญมากๆ เลยค่ะเพราะผู้สูงอายุหลายๆ ท่านจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวอย่างแน่นแฟ้น การย้ายท่านออกมาอยู่ในสถานที่ใหม่ ลูกหลานจะต้องให้ความสนใจและใส่ใจมากๆ ไม่ควรปล่อยให้ท่านรู้สึกเหงา ให้ท่านรู้สึกปลอดภัยว่าครอบครัวไม่ได้ทอดทิ้งท่านและสามารถมาหาท่านได้บ่อยตามที่ท่านต้องการ
ในช่วงระยะแรกลูกหลายอาจจะต้องมาเยี่ยมผู้สูงอายุบ่อยๆ สอบถามความพอใจเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ว่าชอบหรือไม่ หรืออาจจะลองใช้บริการแบบระยะสั้นๆ ดูก่อนว่า สถานที่แห่งนี้ดีหรือไม่ หากถูกใจ บริการดีค่อยใช้บริการแบบระยะยาว
บทความอื่นๆ
ผู้ป่วย อัลไซเมอร์ ไม่ยอมนอน ดูแลอย่างไรดี?
ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว ในผู้สูงอายุ อันตรายหรือไม่ รักษาอย่างไร?
5 ท่า บริหาร หัวใจ ผู้ สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงวัยหัวใจแข็งแรง