“โรคไต” ในผู้สูงอายุ ป้องกันอย่างไรไม่ให้อาการเรื้อรัง

“โรคไต” โรคน่ากลัวอีกโรคหนึ่งสำหรับผู้สูงอายุที่บุตรหลานควรเฝ้าระวัง เนื่องจากหากปล่อยให้ผู้สูงวัยอยู่ในอาการป่วยของโรคนี้นานๆ อาจทำให้ท่านกลายเป็นผู้ป่วยเรื้อรังเกี่ยวกับไตได้ สิ่งที่สำคัญสำหรับการป้องโรคนี้ให้กับผู้สูงอายุนั้นไม่เพียงแต่ต้องคอยดูแลเรื่องสุขภาพ หากแต่ต้องดูแลเรื่องกิจวัตรประจำวันของท่านด้วย เพราะหากปล่อยปะละเลยก็อาจทำให้เสี่ยงที่จะต้องเป็นโรคและเข้ารับการล้างไตที่ผู้สูงอายุมีความกังวลในที่สุด

"โรคไต" ในผู้สูงอายุ ป้องกันอย่างไรไม่ให้อาการเรื้อรัง

“โรคไต” ในผู้สูงอายุเกิดจากอะไร และป้องกันอย่างไร?

โรคชนิดนี้ บ่อยครั้งทำให้ผู้สูงอายุตกใจอยู่ไม่น้อย กลัวว่าจะต้องฟอกไตหรือไม่ กังวลว่าสาเหตุเป็นจากอะไร ต้องทำอย่างไรต่อไป ค่าไตจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่ จะใช้ยาอะไร ต้องกินยาล้างไตหรือไม่ ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของการทำงานของไตเมื่อย่างเข้าสู่วัยผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจนั่นเอง

สาเหตุของการเกิดโรคเกี่ยวกับไตในผู้สูงอายุ

การแบ่งสาเหตุของอาจจะแบ่งได้หลายแบบ ที่นิยมกันจะแบ่งตามสาเหตุ

  • เกิดจากกรรมพันธ์

ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูกหลานได้ อาการมักจะเกิดตั้งแต่วัยรุ่น เช่นโรค polycystic kidney disease.

  • โรคที่พิการแต่กำเนิด

มักจะทำให้การขับปัสสาวะถูกอุดกกลั้นซึ่งจะก่อให้เกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบ หากอุดกลั้นมากๆไตจะบวมและอาจจะเกิดไตวาย

  • โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ

ผู้ที่เป็นโรคจะมีอาการปวดเอว ปัสสาวะสีแดง

  • ต่อมลูกหมากโต

เนื่องจากผู้สูงอายุมีการอุดกลั้นของปัสสาวะทำให้ไตวายได้

  • เกิดจากโรคความดันโลหิตสูง

เนื่องจากคนที่เป็นความดันโลหิตสูงนานๆจะทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงไตตีบ ทำให้เกิดไตวายได้อีกด้วย

  • เกิดจากโรคเบาหวาน

ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุและวัยทั่วไป

 

ค่าไตและการเปลี่ยนแปลงของไตในผู้สูงอายุ

“ค่าไต” หรือ “ครีเอทินิน” เป็นตัวบ่งบอกการทำงานของไตที่เสื่อมลง เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ไตจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านโครงสร้างและการทำงานโดยรวม โดยไตจะมีขนาดเล็กลง น้ำหนักและปริมาตรจะลดลง ถ้าลองเปรียบเทียบกับคนหนุ่มสาว ไตปกติจะน้ำหนักประมาณ 245 – 290 กรัม แต่เมื่ออายุมากขึ้น เช่น อายุ 90 ปี น้ำหนักของไตจะลดลง 15 – 20% จากเดิม เหลือเพียง 180 – 200 กรัม กล่าวคือ ความสามารถของหน่วยไตในการกรองของเสียและน้ำ และการกักเก็บโปรตีนเข้าสู่กระแสเลือดจะลดลง เนื่องจากองค์ประกอบของหน่วยไตและเส้นเลือดในหน่วยไตโดยรวมนั้นจะฝ่อลงตามอายุนั่นเอง

ข้อสำคัญคือในผู้สูงอายุเมื่อเกิดความเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บของไตขึ้น การฟื้นฟูสภาพให้กลับมาดีดังเดิมนั้นจะค่อนข้างช้า เมื่อเทียบกับไตของคนหนุ่มสาว มีรายงานว่า การเสื่อมของไตที่เพิ่มขึ้นจะส่งเสริมอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดที่มากขึ้นตามมา

ระยะของโรค

โดยทั่วไปแล้ว ระยะของโรคนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 และ 2

ติดตามอย่างน้อยทุก 12 เดือน (ทุก 6 เดือน ถ้าตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ)

ระยะที่ 3

ติดตามอย่างน้อยทุก 6 เดือน (ทุก 12 เดือน ถ้าระดับการทำงานของไตคงที่และตรวจไม่พบโปรตีน ในปัสสาวะ)

ระยะที่ 4

ติดตามอย่างน้อยทุก 3 เดือน (ทุก 6 เดือน ถ้าระดับการทำงานของไตคงที่)

ระยะที่ 5

ติดตามอย่างน้อยทุก 3

แนวทางการรักษา

ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดร่วมด้วย

การรักษาด้วยการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดจะป้องกันการเกิดและลดการเสียชีวิตจาก โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่สำคัญ ของผู้ป่วยไตเรื้อรัง

เมื่อไตวายมากจะไม่สามารถกรองของเสียหรือขับน้ำ

เตรียมผู้ป่วยเพื่อการบำบัดทดแทนไต เพื่อให้ผู้ป่วยไตเรื้อรังได้รับการเตรียมพร้อมสำหรับการบำบัดทดแทนไตในระยะเวลาที่เหมาะสม

เมื่อผู้สูงอายุเป็นผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวกับไตและไตเริ่มเสื่อม

การรักษาจะ ชะลอการเสื่อมของไตเท่านั้นทั้งนี้ เพื่อป้องกันหรือยืดระยะเวลาการเกิดภาวะแทรกซ้อนของไตเรื้อรังและความจำเป็นในการบำบัดทดแทนไต

ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะพบว่ามีโรคแทรกซ้อน

การประเมินและรักษาภาวะแทรกซ้อนของไตเรื้อรัง จะป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

การป้องกันและดูแลผูสูงอายุที่บ้าน

รับประทานพืชจำพวกแป้งและข้าวให้มากกว่าการรับประทานเนื้อสัตว์

และหากเลือกรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ให้เลือก ปลา เป็ด ไก่ กุ้ง ไข่ขาวมากกว่าจำพวกเนื้อแดง เช่น หมู วัว ทั้งนี้เนื่องจากไตมีหน้าที่ในการกำจัดของเสีย ซึ่งได้มาจากการเผาผลาญจากโปรตีนจากเนื้อสัตว์ หากรับประทานอาหารกลุ่มนี้มากไตก็จะรับภาระทำงานมากขึ้น

จำกัดการรับประทานเกลือหรืออาหารที่มีรสเค็ม

เนื่องจากไตต้องรับภาระขับเกลือส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเกลือยังมีผลต่อความดันโลหิต ทำให้เกิดความดันโลหิตสูงควบคุมยากขึ้น

การเลือกรับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม

โดยเลือกรับประทานผักหรือผลไม้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่วหรือผัก เต้าหู้ เป็นต้น อาหารกลุ่มนี้จะเป็นแหล่งโปรตีนทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ดี

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง

ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน, ควบคุมน้ำหนักให้ได้มาตรฐาน หรือไม่ให้เกิดภาวะอ้วน, ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอโรบิค, หยุดสูบบุหรี่ ลดหรือหยุดดื่มแอลกอฮอล์, ตรวจวัดความดันอย่างสม่ำเสมอ และพยายามหลีกเลี่ยงความเครียดและผ่อนคลายอารมณ์ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การป้องกันและชะลอการเสื่อมของไตให้กับผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญ หากสามารถดูแลไตโดยเลือกรับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หมั่นวัดความดัน รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้นั่นเอง


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความอื่นๆ

หากสนใจหรืออยากสอบถามบริการ สามารถสอบถามได้ที่ รักษ์คุณ โฮมแคร์ & รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น

เบอร์โทรศัพท์ 062-442-5962 

เวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ 08.00-20.00 น.

Line รักษ์คุณ โฮมแคร์: @rukkhun.hc (มี @)

เพิ่มเพื่อน

Facebook Page: รักษ์คุณ โฮมแคร์

รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น Rukkhun Health Rehabilitation Rukkhun Home Care รักษ์คุณ โฮมแคร์
บริการ รักษ์คุณ โฮมแคร์ เป็นสถานบริการดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดในสมองตีบ ผู้สูงอายุ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังอาการเจ็บป่วยโดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์เฉพาะทาง มีแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ทีมผู้ดูแลที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ให้บริการกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (TRANSCRANIAL MAGNETIC STIMULATION: TMS) และกายภาพบำบัดครบวงจร (REHABILITATION CENTER) พร้อมให้คำปรึกษาตรวจและรักษาโดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่นี่เราให้เป็นมากกว่าสถานบริการพยาบาลเพราะเราเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่รักในการบริการพร้อมดูแลผู้สูงวัยทุกท่านประดุจญาติผู้ใหญ่ของตนเอง มีบริการดูแลช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน ดูแลทำความสะอาดร่างกายโดยทั่วไปในกรณีที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตรวจวัดความดัน ชีพจร อุณหภูมิ ออกซิเจน กายภาพบำบัด ดูแลสุขภาพตามคำสั่งแพทย์ บริการอาหาร 3 มื้อ และอาหารว่างที่มีทีมดูแลด้านโภชนาการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ รวมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการให้ผู้สูงวัย นอกจากนี้เราก็ใส่ใจด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยการติดกล้องวงจรปิดทุกจุดในสถานที่พักตลอด 24 ชั่วโมง