เฝ้าระวัง! โรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุ

“โรคหลอดเลือดสมอง” หรือที่รู้จักกันในปัจจุบันกันว่าเป็นอาการ อัมพฤกษ์ อัมพาต โดยโรคทางสมองชนิดนี้นับว่าเป็นโรคที่น่ากลัวทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นโรคที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็ง โดยเฉพาะในวัยชราที่มักจะพบผู้ป่วยโรคนี้เป็นจำนวนมากเนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ความแข็งแรงของอวัยวะต่างๆ รวมถึงหลอดเลือดในสมองก็จะเสื่อมสมรรถภาพของการทำงานไปตามเวลา ดังนั้น บุตรหลานจึงต้องคอยเฝ้าระวังโรคที่มากับหลอดเลือดในสมองเหล่านี้ของผู้สูงอายุให้ดี เพราะโรคเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงโรคเดียวเท่านั้น

เฝ้าระวัง! โรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุ

โรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุ มีกี่ประเภท และมีแบบใดบ้าง?

โรคหลอดเลือดในสมองเป็นภาวะที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในผู้สูงอายุอันดับที่ 2 รองจากภาวะหัวใจขาดเลือด ทั้งนี้ภายหลังออกจากโรงพยาบาล ผู้ป่วยกลุ่มนี้ถือเป็นผู้ป่วยเรื้อรังที่ยังคงต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากญาติผู้ดูแลเนื่องจากยังมีความบกพร่องทั้งทางร่างกายและมีความพิการหลงเหลือ จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาญาติผู้ดูแลในการทำกิจวัตรประจำวันและการทำกายภาพบำบัดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น

ประเภทโรคหลอดเลือดในสมองของผู้สูงอายุ

โดยทั่วไปโรคหลอดเลือดในสมองที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุจะเหมือนกับภาวะที่เกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้

1. กลุ่มโรคหลอดเลือดในสมองชนิดขาดเลือดเฉียบพลัน (ischemic stroke)

สาเหตุเกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองลดลงเกิดการตายของเนื้อสมอง ซึ่งกลุ่มโรคหลอดเลือดในสมองชนิดนี้จะรวมกลุ่มโรค Transient Ischemic Attack (TIA) ซึ่งเป็นภาวะที่จากระบบประสาทขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วคราวส่งผลให้สมองหรือจอประสาทตาขาดเลือด ทำให้ระบบประสาทเกิดความผิดปกติโดยจะใช้ระยะเวลาจะน้อยกว่า 24 ชั่วโมงก็จะกลับมาเป็นปกติ

2. กลุ่มโรคหลอดเลือดในสมองชนิดเลือดออกในสมอง (hemorrhagic stroke)

สาเหตุเกิดจากมีการแตกของหลอดเลือดแบ่งออกเป็น ICH (Intracerebralhemorrhage),IVH (Intraventricular hemorrhage) มักเกิดร่วมกับการมีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง, SAH (Subarachnoid hemorrhage) ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดแดงโป่งพองเฉพาะที่ภายในสมอง

 

สาเหตุ อาการ และแนวทางการรักษา ของโรคหลอดเลือดในสมองชนิดต่างๆ

  • ชนิดขาดเลือดเฉียบพลัน (หลอดเลือดตีบ-ตัน)

สาเหตุ

เกิดจาก ไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบและขาดความยืดหยุ่น หรืออาจเกิดจากการฉีกของผนังหลอดเลือดด้านในก็ทำให้เส้นเลือดอุดตัน หรืออาจเป็นการเกิดลิ่มเลือดขนาดเล็กแข็งตัวและเกาะที่ผนังหัวใจและลิ้นหัวใจ จากนั้นหลุดลอยตามกระแสเลือดไปอุดตันได้เช่นเดียวกัน

ลักษณะอาการ

  • มีอาการอ่อนแรงหรือชา ข้างใดข้างหนึ่งของร่างกาย
  • ตามัวหรือมองไม่เห็นทันทีทันใด โดยเฉพาะเป็นข้างเดียว
  • ปวดศีรษะฉับพลันชนิดไม่เคยเป็นมาก่อน
  • พูดตะกุกตะกัก ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด
  • สับสน ถามตอบไม่เข้าใจ
  • ชักเกร็งหมดสติ หายใจไม่สม่ำเสมอ ถ้าช่วยไม่ทันอาจเสียชีวิตได้

แนวทางการรักษา

การรักษาขึ้นอยู่กับชนิด และความรุนแรง ระยะเวลาที่มีอาการ ถ้ามารับการรักษาเร็วเท่าไหร่ความพิการ และอัตราการเสียชีวิตก็จะลดลงเท่านั้น อย่างไรก็ดี แนวทางที่ผู้ป่วยสูงวัยของโรคหลอดเลือดในสมองชนิดนี้ สามารถถูกรักษาได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

  • รับยาที่ช่วยละลายลิ่มเลือด ยาจะช่วยเปิดเส้นเลือดให้หายอุดตัน
  • รับยาที่ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในอนาคต จะเป็นการป้องกันสมองขาดเลือดในอนาคต
  • ชนิดเลือดออกในสมอง (หลอดเลือดแตก)

สาเหตุ

เกิดจากลิ่มเลือดอุดตันในระบบไหลเวียนโลหิต หรืออาจเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ ไม่ยืดหยุ่น และประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดลง ออกซิเจนในเลือดจึงไม่สามารถไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในสมองได้

ลักษณะอาการ

  • รู้สึกชาตามตัว หรืออวัยวะ แขนขาอ่อนแรง ขยับตัวไม่ได้ หรือเป็นอัมพาตครึ่งซีก
  • ใบหน้าบิดเบี้ยว มุมปากตก น้ำลายไหล กลืนลำบาก พูดลำบาก พูดติดขัด สื่อสารไม่ได้ สับสนมึนงง และไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้อื่นพูด
  • เสียสมดุลการทรงตัวและการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น เดินลำบาก เดินเซ ขยับแขนขาลำบาก
  • มีปัญหาในการมองเห็น สายตาพร่ามัว มองไม่เห็น เห็นภาพซ้อน ตาบอดข้างเดียวในทันทีทันใด
  • ในบางรายอาจพบอาการปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

แนวทางการรักษา

  • ต้องรับการรักษาเพื่อลดการเสียหายของเนื้อสมองจากการที่เลือดออกภายในและรอบๆ เนื้อสมอง
  • หยุดยาที่ทำให้เลือดออกง่าย หรือลดขนาดยาลง
  • ได้รับการผ่าตัดเพื่อเข้าไปซ่อมหลอดเลือดและหยุดเลือดออก (แต่อาจไม่สามารถทำได้ทุกราย)

อย่างไรก็ดี การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด บุตรหลานควรเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะเริ่มดูแลท่านอย่างจริงจัง เนื่องจากโรคหลอดเลือดในสมองทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถเกิดแบบเฉียบพลันได้ ซึ่งนั่นหมายถึงมันอาจไม่มีสัญญาณเตือนว่าผู้สูงอายุจะล้มป่วยโรคนี้เมื่อไหร่ ดังนั้น การดูแลท่านให้ดีไว้ตั้งแต่เริ่มต้นจึงย่อมดีกว่ารอให้สายเกินไป หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่บุตรหลานจะการดูแลและป้องกันให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความอื่นๆ

หากสนใจหรืออยากสอบถามบริการ สามารถสอบถามได้ที่ รักษ์คุณ โฮมแคร์ & รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น

เบอร์โทรศัพท์ 062-442-5962 

เวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ 08.00-20.00 น.

Line รักษ์คุณ โฮมแคร์: @rukkhun.hc (มี @)

เพิ่มเพื่อน

Facebook Page: รักษ์คุณ โฮมแคร์

รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น Rukkhun Health Rehabilitation Rukkhun Home Care รักษ์คุณ โฮมแคร์
บริการ รักษ์คุณ โฮมแคร์ เป็นสถานบริการดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดในสมองตีบ ผู้สูงอายุ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังอาการเจ็บป่วยโดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์เฉพาะทาง มีแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ทีมผู้ดูแลที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ให้บริการกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (TRANSCRANIAL MAGNETIC STIMULATION: TMS) และกายภาพบำบัดครบวงจร (REHABILITATION CENTER) พร้อมให้คำปรึกษาตรวจและรักษาโดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่นี่เราให้เป็นมากกว่าสถานบริการพยาบาลเพราะเราเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่รักในการบริการพร้อมดูแลผู้สูงวัยทุกท่านประดุจญาติผู้ใหญ่ของตนเอง มีบริการดูแลช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน ดูแลทำความสะอาดร่างกายโดยทั่วไปในกรณีที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตรวจวัดความดัน ชีพจร อุณหภูมิ ออกซิเจน กายภาพบำบัด ดูแลสุขภาพตามคำสั่งแพทย์ บริการอาหาร 3 มื้อ และอาหารว่างที่มีทีมดูแลด้านโภชนาการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ รวมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการให้ผู้สูงวัย นอกจากนี้เราก็ใส่ใจด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยการติดกล้องวงจรปิดทุกจุดในสถานที่พักตลอด 24 ชั่วโมง