ไมเกรนผู้สูงอายุ – บอกลาอาการปวดหัวด้วยคลื่นไฟฟ้า

“ไมเกรนผู้สูงอายุ” เชื่อว่าผู้สูงอายุหลายๆ ท่านต้องเคยประสบปัญหานี้มาก่อน หรืออาจกำลังประสบอยู่ อาการปวดหัวที่ค่อนข้างสร้างความเจ็บปวดและรำคาญใจในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยธรรมชาติแล้วเมื่ออายุมากขึ้น อุบัติการณ์ของการปวดศีรษะไมเกรนจะลดน้อยลง อันเนื่องมาจากภาวะฮอร์โมนในร่างกายบางอย่างลดลง แต่ก็ยังพบการปวดศีรษะไมเกรนได้ในผู้สูงอายุ โดยความสำคัญของการวินิจฉัยและรักษานั้นค่อนข้างจะมีความซับซ้อน บุตรหลานจึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด

ไมเกรนผู้สูงอายุ - บอกลาอาการปวดหัวด้วยคลื่นไฟฟ้า

“ไมเกรนผู้สูงอายุ” เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่?

จากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า โดยธรรมชาติแล้วเมื่ออายุมากขึ้น อุบัติการณ์ของการปวดศีรษะไมเกรนจะลดน้อยลง อันเนื่องมาจากภาวะฮอร์โมนในร่างกายบางอย่างลดลง แต่ก็ยังพบการปวดศีรษะไมเกรนได้ในผู้สูงอายุ แต่การจะตรวจสุขภาพและทำการรักษานั้นค่อนข้างจะมีความซับซ้อน เนื่องจากผู้สูงอายุอาจมีโรคประจำตัวอื่นๆ ที่ต้องใช้ยารับประทานเป็นประจำ และยังต้องระวังการปวดศีรษะที่มาจากภาวะโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น การติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น

สาเหตุของการเกิดไมเกรนในผู้สูงอายุ

  • กระแสไฟฟ้าบริเวณผิวสมองผิดปกติ

ภาวะปวดศีรษะไมเกรน เกิดจากการส่งกระแสไฟฟ้าบริเวณผิวสมองผิดปกติ  ส่งผลให้สมองไวต่อสิ่งกระตุ้น มากกว่าคนทั่วไป ซึ่งเมื่อสมองถูกกระตุ้นจะเกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งไปตามผิวของสมอง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ของเส้นเลือดในสมอง อีกทั้งยังไปกระตุ้นเส้นประสาทสมองให้หลั่งสารสื่อประสาทบางชนิดที่ทำให้หลอดเลือดสมองขยายตัวและเกิดการอักเสบ จนเป็นผลทำให้ปวดศีรษะ

  • สิ่งกระตุ้นอื่นๆ ที่ทำให้ปวดไมเกรน

สิ่งกระตุ้นที่สามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน ได้แก่ ความเครียด พักผ่อนน้อย การสูดกลิ่น หรือควัน แสงแดด อากาศร้อนหรือหนาวจัด รวมถึงอาหารบางชนิด เช่น ของหมักดอง  ชีส และไวน์  ซึ่งบุตรหลานควรดูแลให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

  • การเข้ารับการรักษาช้า

หากไม่ได้รับการรักษาหรือเข้ารับการรักษาช้า สมองจะปรับระบบรับความเจ็บปวดในสมอง ทำให้อาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้น และมีความถี่มากขึ้น จนในที่สุดจะไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวดอีกต่อไป

 

ลักษณะอาการ

  • ปวดศีรษะรุนแรงแบบตุ้บๆ คล้ายเส้นเลือดบีบตัว
  • มักเกิดขึ้นข้างใดข้างหนึ่ง อาจย้ายข้างได้ หรือปวดทั้ง 2 ข้าง
  • อาการปวดมักรุนแรงขึ้น เมื่อทำกิจกรรม เช่น การเดินหรือขึ้นบันได การก้มหรือเงยศีรษะ
  • อาการปวดจะบรรเทาลง หากได้พักผ่อนอยู่นิ่งๆ ในห้องที่มืดและเย็น
  • อาการคลื่นไส้ หรืออาเจียน ร่วมกับภาวะปวดศีรษะรุนแรง
  • การมองเห็นภาพบิดเบี้ยว เห็นภาพคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง เห็นเป็นแสงวาบๆ (Flashing) เห็นแสงจ้า
  • การได้รับกลิ่นบางอย่าง เช่น สี น้ำหอม จะเป็นตัวกระตุ้นการปวดศีรษะได้ง่าย

ระยะของการปวดไมเกรน

ระยะก่อนมีอาการ (Prodome symtoms)

ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนปวดหัว มีอาการผิดปกติทางสมองแบบทั่วๆไป เช่น รู้สึกเหนื่อยเพลีย มีความรู้สึกตื้อๆ หงุดหงิดง่าย ทนต่อแสงเสียงไม่ค่อยได้ คิดช้าทำช้า มีความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร รู้สึกอยากอาหารมากกว่าปกติ เป็นต้น

ระยะอาการนำ (Aura)

ประมาณ 20-40 นาทีก่อน หรือระหว่างปวดหัว จะมีความผิดปกติทางด้านการมองเห็น โดยมักจะมีความผิดปกติทางด้านการมองเห็น เช่น การมองเห็นแสงแฟลช แสงสว่างจ้า แสงระยิบระยับ หรือเป็นแสงรูปซิกแซก ในบางคนอาจจะมีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกได้

ระยะปวดศีรษะ (Headache)

จะมีอาการปวดหัวข้างเดียว หรือเป็นทั้ง 2 ข้างก็ได้ ปวดตุบๆ ตามการเต้นของชีพจร มักจะเริ่มเป็นช้าๆ ในเวลา 30-60 นาที จนมีอาการปวดมากที่สุด และอาการจะคงอยู่ครึ่งวันหรือตลอดวัน หรือบางคนอาจจะคงมีอาการปวดศีรษะได้ถึง 72 ชั่วโมง และจะค่อยๆ หายไป อาจเกิดร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน หงุดหงิด ปวดต้นคอ และจะแพ้ต่อสิ่งเร้าต่างๆ เป็นพิเศษ เช่น แสงจ้า เสียงดัง เป็นต้น

ระยะหาย (Post drome)

อาการสำคัญคืออาการอ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ไม่แจ่มใส ปัสสาวะมาก หรือกระหายน้ำ อาการเหล่านี้จะเป็นอยู่ 1 ชั่วโมงถึง 4วัน โดยเฉลี่ยประมาณ 2 วัน

“คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า” บอกลา “ไมเกรน”

ในขั้นตอนการรักษานั้น จะนำหัวส่งคลื่นแม่เหล็กมาวางที่ศีรษะ ใช้เวลาเพียง 20-30 นาที โดยควรเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 2 -3 ครั้งต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องกันอย่างน้อยประมาณประมาณ 5 ครั้ง หรือตามดุลยพินิจของแพทย์ด้านสมองและระบบประสาทจะเป็นผู้ประเมินว่าต้องทำกี่ครั้งรวมถึงความถี่ในการทำต่อสัปดาห์ และจากการเข้ารับการรักษานั้น จะเริ่มเห็นผลประมาณครั้งที่ 5 เป็นต้นไป

เมื่อทำเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล ไม่สร้างบาดแผลหรือความเจ็บปวดใดๆ ขณะรักษาแก่ผู้ป่วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS มีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากมีผลอยู่ในวงจำกัดที่แคบมาก เพียง 1-3 เซนติเมตร จากหัวกระตุ้น จึงไม่มีผลกระทบที่อันตรายต่ออวัยวะของร่างกาย

การป้องกันอาการ ไมเกรนผู้สูงอายุ

  • ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์หลากหลาย เน้นอาหารกากใยสูง
  • ออกกำลังกายเบาๆ ที่เหมาะสม หรือตามคำแนะนำของแพทย์
  • ไม่ซื้อยาแก้ปวด หรือยารักษาอาการอื่นๆ มารับประทานเองโดยเด็ดขาด
  • ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งที่พบความผิดปกติของร่างกาย หรือมีอาการปวดศีรษะรุนแรง

อย่างไรก็ดี หากผู้สูงอายุเริ่มมีอาการปวดหัวข้างเดียวหรือสองข้าง ติดต่อต่อกันหลายชั่วโมง มีอาการปวดหัวจี๊ดๆ ตุบๆ ตลอดเวลา หรือมีอาการอื่นร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็น อาการคลื่นไส้อาเจียน เป็นสัญญาณน่าสงสัยว่าเริ่มเป็นไมเกรน บุตรหลานอย่าชะล่าใจปล่อยให้อาการรุนแรง ควรรีบมารักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าจะทำให้การรักษาไมเกรนผู้สูงอายุเห็นผลอาการปวดหัวดีขึ้นและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความอื่นๆ

หากสนใจหรืออยากสอบถามบริการ สามารถสอบถามได้ที่ รักษ์คุณ โฮมแคร์ & รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น

เบอร์โทรศัพท์ 062-442-5962 

เวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ 08.00-20.00 น.

Line รักษ์คุณ โฮมแคร์: @rukkhun.hc (มี @)

เพิ่มเพื่อน

Facebook Page: รักษ์คุณ โฮมแคร์

รักษ์คุณ เฮลท์ รีแฮบิลิเทชั่น Rukkhun Health Rehabilitation Rukkhun Home Care รักษ์คุณ โฮมแคร์
บริการ รักษ์คุณ โฮมแคร์ เป็นสถานบริการดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดในสมองตีบ ผู้สูงอายุ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังอาการเจ็บป่วยโดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์เฉพาะทาง มีแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ทีมผู้ดูแลที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ให้บริการกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (TRANSCRANIAL MAGNETIC STIMULATION: TMS) และกายภาพบำบัดครบวงจร (REHABILITATION CENTER) พร้อมให้คำปรึกษาตรวจและรักษาโดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่นี่เราให้เป็นมากกว่าสถานบริการพยาบาลเพราะเราเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่รักในการบริการพร้อมดูแลผู้สูงวัยทุกท่านประดุจญาติผู้ใหญ่ของตนเอง มีบริการดูแลช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน ดูแลทำความสะอาดร่างกายโดยทั่วไปในกรณีที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตรวจวัดความดัน ชีพจร อุณหภูมิ ออกซิเจน กายภาพบำบัด ดูแลสุขภาพตามคำสั่งแพทย์ บริการอาหาร 3 มื้อ และอาหารว่างที่มีทีมดูแลด้านโภชนาการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ รวมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการให้ผู้สูงวัย นอกจากนี้เราก็ใส่ใจด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยการติดกล้องวงจรปิดทุกจุดในสถานที่พักตลอด 24 ชั่วโมง