“ผู้สูงอายุนอนทั้งวัน” คือหนึ่งในโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของการนอนเช่นเดียวกับ “โรคนอนไม่หลับ” ในผู้สูงอายุหากแต่อาการจะสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง แต่กลับกลายเป็นสัญญาณเตือนของโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่กำลังมาเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าทั้งโรคนอนไม่หลับและหลับทั้งวันของผู้สูงอายุนั้นเป็นอาการที่เกินพอดีในเรื่องของการนอนทั้งสิ้นและอะไรที่เกินพอดีก็ย่อมหมายถึงเป็นสิ่งที่ “ไม่ปกติ” ทั้งสิ้น
เมื่อการ “นอนทั้งวัน” เป็นสัญญาณเตือนโรค…
จากผลการวิจัยผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนและสูงอายุ ที่ชอบแอบนอนตอนกลางวัน เพื่อทดแทนการอดนอนตอนกลางคืน ควรจะระวังตัว เพราะมีผลการศึกษาว่า การประพฤติเช่นนั้นจะทำให้เสี่ยงกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะจากโรคของระบบทางเดินหายใจนอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลันเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ก็ได้ระบุไว้ว่าผู้ที่นอนกลางวันนานๆ ในช่วงวัย 45-60 ปียังมีโอกาศเสียชีวิตสูงกว่าคนที่ไม่มีพฤติกรรมนี้ถึง 2 เท่า อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่คอยเตือนถึงภาวะโรคต่างๆ อีกด้วย
อาการ “นอนทั้งวันของผู้สูงอายุ” เกิดจากอะไร?
1. อดนอนนานๆ
การอดนอนมาเป็นเวลานานๆ และทำเป็นประจำบ่อยๆ จนร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลให้ผู้มีอาการเช่นนี้รู้สึกว่านอนเท่าไหร่ก็เพียงเพียงพอต่อความต้องการ
2. ฮอร์โมนและสารเคมีในสมอง
สาเหตุมาจากระบบการทำงานของฮอร์โมนและสารเคมีในสมองของผู้สูงอายุเริ่มทำงานเสื่อมถอยลงและทำงานได้ไม่เต็มที่จึงทำให้เวลาที่ควรได้พักผ่อน (ช่วงกลางคืน) ผู้สูงอายุได้รับสารเมลาโทนินที่ช่วยให้หลับสนิทไม่เพียงพอ ท่านจึงต้องมาอาศัยหลับในช่วงเวลาระหว่างวันแทน
3. นาฬิกาชีวิต
ผู้สูงอายุบางท่านที่ยังทำงานด้วยตนเองอาจมีตารางชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น ตารางการทำงานที่ต้องเปลี่ยนกะ การเดินทางบ่อยๆ เป็นต้น ทำให้เวลาในการนอนแปรปรวนอยู่เสมอและสับสนว่าควรนอนเวลาใด

ผลเสียของการนอนกลางวันนานๆ ในผู้สูงอายุ
1. สมองล้าและเฉื่อยชา
การนอนพักผ่อนให้เพียงพอเป็นเรื่องที่ดี แต่หากผู้สูงอายุที่นอนนานเกินไปก็จะส่งผลเสียได้โดยเฉพาะกับระบบสมอง เช่น สมองช้า สองเฉื่อยชา ทำให้กลายเป็นคนไม่มีชีวิตชีวา ไม่คล่องแคล้ว และไม่กระปรี่กระเปล่า
2. กระดูกกล้ามเนื้อและข้อลดประสิทธิภาพลง
เนื่องจากหากผู้สูงวัยที่มีอาการนี้เสียเวลาในแต่ละวันไปกับการนอนเป็นส่วนใหญ่การขยับร่างกายจึงน้อย ดังนั้นการทำงานของข้อต่อต่างๆ กระดูก กล้ามเนื้อ จึงไม่ได้ใช้งานและทำให้ประสิทธิภาพของอวัยวะเหล่านี้ลดลง
3. น้ำหนักขึ้น
การติดการนอนนานๆ เกินไปนั้นส่งผลต่อระบบเผาผลาญในร่างกาย ยิ่งโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ระบบการเผาผลาญลดลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การพฤติกรรมเช่นนี้ก็จะส่งเสริมให้แย่กว่าเดิมและอาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น
4. เสี่ยงต่อการเป็นซึมเศร้า
การนอนมากๆ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนจึงส่งผลต่อสารเคมีของอารมณ์และความสุขเกิดการแปรปรวนไปด้วย เช่น เซโรโทนิน เอ็นดอร์ฟิน เป็นต้น
วิธีการรักษาอาการนอนเกินในผู้สูงอายุ
1. เข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม
เพราะการนอน 4 ทุ่มนั้นจะเป็นเวลาที่ร่างกายจะได้รับฮอร์โมนดีๆ ได้อย่างเต็มที่เนื่องจากฮอร์โมนดังกล่าวนอกจากจะช่วยให้ร่างกายหลับได้ดีแล้วยังช่วยในส่วนของการซ่อมแซมส่วนสึกหลอของร่างกายอีกด้วย
2. ทฤษฎี 28 วัน
ให้ตั้งตารางการเข้านอน-ตื่นนอนให้กับผู้สูงอายุที่มีอาการการนอนเกิน โดยทั้งเวลานอนและเวลาตื่นต้องเป็นเวลาเดียวกันทุกวันและทำซ้ำๆ จนครบ 28 วันเพื่อปรับเวลาของนาฬิกาชีวิตให้เกิดความชิน
3. งดอาหารหนักๆ
ก่อนเข้านอน (เวลากลางคืน) สัก 4 ชั่วโมง ผู้สูงอายุควรงดการทานอาหารหนักๆ เช่น บุฟเฟ่ ข้าว ขนมปังต่างๆ เพื่อลดการอึดอัดและแน่นท้องในตอนนอน
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นโรคนอนไม่หลับหรือว่าโรคนอนนานเกินไป ในผู้สูงอายุถือว่าส่งผลไม่ดีทั้งสิ้น แม้ในระยะต้นๆ อาการจะไม่ได้ดูน่าเป็นห่วงมากนัก แต่สมาชิกในครอบครัวไม่ควรเพิกเฉยเพราะไม่ว่าอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนของโรคแทรกซ้อนที่กำลังตามมาอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
สังเกตภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ มีความอันตรายอย่างไร
บทความอื่นๆ
ผู้ป่วย อัลไซเมอร์ ไม่ยอมนอน ดูแลอย่างไรดี?
ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว ในผู้สูงอายุ อันตรายหรือไม่ รักษาอย่างไร?
5 ท่า บริหาร หัวใจ ผู้ สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงวัยหัวใจแข็งแรง