“กลั้นปัสสาวะไม่อยู่” เป็นปัญหาธรรมดาๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง โดยปกติทั่วไปแล้วปัญหานี้สามารเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะสตรีที่เพิ่งคลอดบุตร (คลอดแบบธรรมชาติ) และผู้สูงอายุนั่นเอง อย่างไรก็ดี เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าระบบร่างกายมีความผิดปกติ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเท่านั้น จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง
“กลั้นปัสสาวะไม่อยู่” คืออะไร และมีสาเหตุมาจากอะไร
ภาวะที่ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ คือ การสูญเสียการควบคุมกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมีตั้งแต่ปัสสาวะเล็ดหลังจากการจาม ไอ หรือหัวเราะ ไปจนถึงไม่สามารถกลั้นปัสสาวะอย่างสิ้นเชิง
จากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าอาการนี้เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง ผู้สูงอายุบางท่านหลายคนสูญเสียโอกาสจากการไม่สามารถเดินทางไปสถานที่ไกลๆ ได้ เพราะมีข้อจำกัดด้านห้องน้ำ อาจนอนหลับไม่สนิทเพราะกังวลเรื่องการปัสสาวะ และอาจส่งผลให้กลายเป็นคนไม่ชอบออกไปข้างนอก และกรณีที่หนักกว่านั้นคือไม่กล้าเข้าสังคมไปในที่สุด
สาเหตุเกิดจาก
- อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่อมีอายุสูงขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆมีความเสื่อมของร่างกาย ทั้งในระบบของทางเดินปัสสาวะเองและในระบบที่เกี่ยวข้อง
- กระเพาะปัสสาวะมีความจุลดลง
จำนวนปัสสาวะค้างเพิ่มมากขึ้นหลังการถ่ายปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกติ ทำให้ต้องปัสสาวะบ่อยและอาจมีปัสสาวะราดได้บ่อย
- ผู้สูงอายุหญิงจะมีภาวะวัยทอง
ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลง ส่งผลกระทบต่อทางเดินปัสสาวะ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนตัว หูรูดท่อปัสสาวะหดรัดตัวไม่ดี
- ผู้สูงอายุชายอาจเกิดจากภาวะต่อมลูกหมากโต
จนอุดตันท่อทางเดินปัสสาวะได้บ่อยๆ ทำให้ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
- การอักเสบติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะราด
- ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการกลั้นปัสสาวะ
เช่น โรคเบาหวาน เบาจืด โรคความดันโลหิตสูง โรคทางสมอง ผู้สูงอายุที่มีปัญหาโรคข้อเสื่อม เป็นต้น
- ปัญหาด้านจิตใจ
โดยเฉพาะอาการซึมเศร้า ซึ่งสามารถพบได้บ่อยในวัยผู้สูงอายุ เมื่อเกิดอาการซึมเศร้าก็อาจจะมีปัสสาวะเล็ดราด
- ข้อจำกัดในการเดิน
การเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น มีอาการปวดเอว ปวดหลัง ปวดเข่า ทำให้เดินลำบาก ขยับตัวนานกว่าจะไปเขาห้องน้ำได้ มีปัญหาด้านสายตาที่มองไม่ชัด
อาการ
โดยปกติแล้ว ภาวะนี้สามารถแบ่งอาการออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
-
ภาวะกลั้นไม่ได้แบบชั่วคราว
มักจะมีอาการกลั้นไม่อยู่เพียงบางครั้งและสามารถรักษาหายได้ ได้แก่
1.ผู้ป่วยสูงอายุที่มีอากรเพ้อ สับสน
2.ผู้ป่วยสูงอายุที่มีการติดเชื้อที่ระบบปัสสาวะหรือช่องคลอดจากการขาดฮอร์โมนส์
3.ผู้ป่วยสูงอายุที่มีปัญหาทางจิตเวช
4.ผู้ป่วยสูงอายุที่ใช้ยาบางกลุ่ม เช่น ยาลดความดัน ยาที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท
5.ผู้ป่วยสูงอายุที่ไม่สามารถขยับตัวได้ หลังจากการรักษาหรือผ่าตัด
-
ภาวะกลั้นไม่ได้แบบถาวร
1.อาการไอจามปัสสาวะเล็ด
2.อาการปัสสาวะราด
3.อาการไอจามปัสสาวะเล็ดร่วมปัสสาวะราด
4.อาการปัสสาวะไหลซึมตลอดเวลา
5.อาการปัสสาวะไหลออกมาขณะเปลี่ยนท่าทาง
ภาวะเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุอย่างไร
การมีปัสสาวะเล็ดราดบ่อยครั้ง ทำให้ผิวหนังเปียกชื้น เกิดการระคายเคือง เกิดผื่นหรือผิวหนังเปื่อย ผิวหนังฉีกขาด เสี่ยงต่อการติดเชื้อของผิวหนัง การที่ผู้สูงอายุกังวลเกี่ยวกับการปัสสาวะบ่อย ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ต้องรีบลุกไปขับถ่าย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน มีผลรบกวนต่อการนอนหลับ และการเดินไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ยังทำให้ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดการหกล้มและกระดูกหักได้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อภาวะจิตใจ มีผลต่อความรู้สึกลดคุณค่าในตัวเอง ทำให้แยกตัวจากสังคมเนื่องจากกลัวการปัสสาวะเล็ดราดในที่ชุมชน
เทคนิคการช่วยผู้สูงอายุป้องกันภาวะนี้โดยไม่ต้องผ่าตัด
1. ลดความดันในช่องท้อง
เช่น ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน รักษาอาการท้องผูก หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
2. ฝึกควบคุมการขับถ่าย
โดยกลั้นปัสสาวะให้นานขึ้นก่อนปัสสาวะและในขณะปัสสาวะควรปัสสาวะให้หมด โดยห้ามเบ่งแรง
3. ปรับวิธีการดื่มน้ำ
โดยให้ดื่มน้ำวันละ 8 – 10 แก้ว หรือดื่มตามน้ำหนักตัวแต่ไม่ควรดื่มมากจนเกินไปและหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนนอน
4.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มอื่นๆ
เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม แอลกอร์ฮอล์ ร่วมถึงการสูบบุหรี่
5. ออกกำลังกาย
โดยให้ผู้สูงอายุหมั่นทำกายบริหารง่ายๆ หรือทำกายภาพบำบัด ก็จะสามารถช่วยได้
อย่างไรก็ดี แม้ดูไม่ได้เป็นภาวะการป่วยที่รุนแรง แต่บุตรหลานก็ไม่ควรมองข้ามที่จะพาผู้สูงวัยในครอบครัวมารีบรักษา เนื่องจากปัญหานี้เป็นปัญหาที่ส่งผลชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุโดยตรง ดังนั้นจึงควรรีบพาท่านมาพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาท่านให้หายเพื่อที่จะให้ท่านใช้ชีวิตำด้สะดวกและมีความสุขมากขึ้นด้วยนั่นเอง
บทความอื่นๆ
ผู้ป่วย อัลไซเมอร์ ไม่ยอมนอน ดูแลอย่างไรดี?
ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว ในผู้สูงอายุ อันตรายหรือไม่ รักษาอย่างไร?
5 ท่า บริหาร หัวใจ ผู้ สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงวัยหัวใจแข็งแรง